5 เทรนด์โทนสีสุดปังสำหรับปี 2023

in Inspiration on เมษายน 21, 2023

5 เทรนด์โทนสีสุดปังสำหรับปี 2023

เทรนด์สีได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสถานะการณ์ของโลกปัจจุบัน ดังนั้นในช่วงเวลาแห่งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น สงครามโลก และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราเห็นความต้องการร่วมกันในการหนีออกจากสถานะการณ์และความวิตกกังวลเหล่านั้นที่แสดงออกมาผ่านทางสี

ปีนี้คาดว่าจะเห็นการแบ่งแยกที่ชัดเจนระหว่างชุดสีที่ชวนให้นึกถึงอดีตและชุดสีที่ทำให้รู้สึกสงบเงียบกับชุดสีที่มืดและสีแนวดิสโทเปีย สีที่ทำให้รู้สึกสงบและเป็นพลังบวก บวกทำให้เรามองโลกในแง่ดี

เทรนด์สีสุดปังสำหรับปี 2023 เป็นเรื่องเกี่ยวกับแสงและเงา ทำให้เรามีโอกาสแสดงตัวตนที่ปลายสุดของความเท่ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในมุมมองความคิดในแง่ดีหรือในแง่ร้าย เทรนด์สีในปีนี้ก็ก็อาจจะเข้าถึงคุณไปแล้ว

เทรนด์โทนสีสุดปัง 5 อันดับสำหรับปี 2023

1. โทนสียุค 70

หากมองย้อนกลับไปยังจานสีที่สงบและเย็นของยุค 70 เพื่อหาแรงบันดาลใจด้วยสีน้ำตาลเอิร์ธโทน สีเขียวอะโวคาโด สีเหลืองมัสตาร์ด และสีทองจากการเก็บเกี่ยวที่เป็นจุดสนใจ ลองนึกถึงพระอาทิตย์ตกดินที่ฟ้าครึ้มในแคลิฟอร์เนีย Licorice Pizza ของ Paul Thomas Anderson และตู้เสื้อผ้าของ Fleetwood Mac

นอกจากจะสร้างความรู้สึกหวนคิดถึงความสุขในช่วงเวลาที่เรียบง่ายแล้ว โทนสีเอิร์ธโทนช่วยสร้างบรรยากาศที่สบาย คุ้นเคย และเข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทุกคนต้องการในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้

2. โทนสีที่สว่างสวยงาม

โทนสีที่สว่างไม่ได้เป็นเพียงสีที่สว่างและคมชัดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับสีที่ทำร้ายสายตาของคุณด้วย (แน่นอนว่าในทางที่สวยงามที่สุดก็เช่นกัน) เทรนด์นี้มีรากฐานมาจากวิทยาศาสตร์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการทดสอบสารที่เป็นกรด ยิ่งสารมีความเป็นกรดมากเท่าใด สีก็จะยิ่งสว่างขึ้นเท่านั้น

ตรงกันข้ามกับสุนทรียภาพอันนุ่มนวลออ่นโยนของเทรนด์สีในยุค 70 เป็นโทนสีที่โดดเด่นและดึงดูดความสนใจของคุณ หากคุณต้องการความโดดเด่นต่อหน้าผู้คนมากมาย โทนสีที่สว่างคือคำตอบของคุณอย่างแน่นอน

3. โทนสีเงินโครเมียม

สีเงินโครเมียมคล้ายคลึงกับเทรนด์การออกแบบกราฟิกในโทนสีที่สว่าง สีเงินโครเมียมเข้ากันได้อย่างลงตัวกับอารมณ์ที่รู้สึกหงุดหงิดและความไม่สบายใจใน

เทรนด์นี้ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของโลหะที่บิดเบี้ยวและหลอมละลาย เฉดสีเงินโครเมียมมีตั้งแต่โทนสีเข้มหรือหม่นไปจนถึงโลหะเงินแวววาว เทรนด์สีนี้เข้ากันได้ดีกับสไตล์ที่อยู่ติดกัน เช่น โทนสีที่สว่างและการออกแบบที่ไม่เน้นเรื่องความสวยงามและเน้นย้ำถึงการแสดงออกถึงการต่อต้านการรวมตัวกันขององค์ประกอบ

4. โทนสีแห่งความสุข

เป็นเรื่องง่ายที่คนทั่วไปจะถูกครอบงำด้วยเรื่องราวและข่าวสารทางเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบัน และเพียงแค่คุณอ่านข่าวเหล่านั้นคุณก็รู้สึกถึงความสิ้นหวังในทันที ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ในขณะที่เราต่อสู้อย่างแข็งขันเพื่อโลกที่ดีกว่า เรายังใส่แสงเข้าไปในที่ร่มได้ด้วย โทนสีแห่งความสุขเหล่านี้สร้างขึ้นจากเฉดสีที่สดใสและมีความสุขในตัวของมันเอง

สี Estatic นั้นเป็นโทนสีสว่าง ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจและแรงดึงดูดความได้เป็นอย่างดี เนื่องจากโทนสีเหล่านี้เป็นสีที่ทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนาน และยังแสดงถึงพลังของวัยเยาว์และขี้เล่นอีกด้วย ท่ามกลางความโกลาหลและความเศร้าโศกในโลกใบนี้ สีเหล่านี้ชำระล้างและทำให้เรามองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง

5. โทนสีจากยุคมิลเลนเนียล

โทนสีจากยุคมิลเลนเนียลได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงปลายทศวรรษ 1990 ถึงกลางปี 2000 เมื่อแบรนด์ต่างๆ ทำตลาดกับเด็กสาววัยรุ่นที่มีความสวยงามหรูหราและสนุกสนานในสีสันที่ร่าเริง เช่น ฟ้า ชมพู เหลือง และเขียว

สำหรับบางคน สีเหล่านี้ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาที่เรียบง่ายในตอนที่เราไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ต ความทรงจำในวัยเด็กที่สนุกสนาน หรือความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุ้นเคย และสำหรับคนอื่นๆ มันเป็นสัญลักษณ์ของการมองโลกในแง่ดีและความหวังสำหรับอนาคต เนื่องจากคนรุ่นใหม่ค้นพบพลังในการแสดงออกผ่านสีสันที่สดใสและมีพลัง

Categories: Inspiration

Cart (0)

  • Your cart is empty.